Home » » การเตรียมความพร้อมสำหรับทำฟาร์มกวาง

การเตรียมความพร้อมสำหรับทำฟาร์มกวาง

การเตรียมความพร้อมสำหรับทำฟาร์มกวาง




สำหรับผู้ที่สนใจหรือมีโครงการจะเลี้ยงกวาง ควรจะเตรียมปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ให้พร้อมก่อน ได้แก่
1. ปัจจัยด้านความรู้ หมายถึงความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเลี้ยงและดูแลกวาง โดยที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับสหกรณ์กวางแห่งประเทศไทย มีการจัดครอสฝึกอบรมการเลี้ยงกวางปีละ 1 - 2รุ่น การอบรมแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 5 วัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 บาท 
2. ปัจจัยด้านพื้นที่ กวางเป็นสัตว์อยู่ง่ายกินง่าย สามารถเลี้ยงได้ทุกแห่งหนในประเทศไทยขอเพียงอยู่ในพื้นที่ไม่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมก็พอ ขนาดของพื้นที่ก็ไม่จำเป็นต้องกว้างขวางอย่างของวัว พื้นที่แค่ 3 - 5 ไร่ สามารถเลี้ยงกวางได้เป็นร้อยตัว สมมุติว่าเรามีพื้นที่ 5 ไร่ แบ่งพื้นที่ไว้ประมาณ 3 ไร่ เพื่อผลิตหญ้าอีก 2 ไร่ ทำเป็นฟาร์มกวางได้ประมาณ 100 - 150 ตัว 
3. ปัจจัยด้านอาหารและน้ำ อาหารที่กวางกินนอกจากหญ้าก็มีไม้ใบเขียวทั้งหลาย ยอดไม้ กิ่งไม้ กวางกินได้หมด ที่สำคัญคือน้ำต้องมีน้ำสำหรับใช้ในการผลิตหญ้า ผลิตพืชอาหารให้กวางกิน 
4. ปัจจัยด้านเงินทุน ด้วยความที่กวางในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อยอยู่ ราคากวางตอนนี้จึงเทียบเท่ากับราคากวางนำเข้าคือประมาณ 25,000 บาท/ตัว เข้าใจว่าในอนาคตเมื่อกวางในประเทศมีจำนวนมากขึ้นราคาคงจะลดลงกวางที่ทางสหกรณ์นำเข้ามาก็มีเพียง 1 สายพันธุ์ คือ รูซ่าจากนิวคาลิโดเนีย โดยติดต่อกับสหกรณ์กวางของเขาโดยตรง โดยเราวางสเปคกวางไปแล้ว นักวิชาการของซีราดที่ประจำอยู่ที่นั่นจะช่วยดูแลจัดหาให้ตามสเปคเรา แต่มีสมาชิกของสหกรณ์รายหนึ่งไปนำกวางเข้ามาจากเวียดนาม จัดการเองโดยที่ทางสหกรณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องคือกวางทางเวียดนาม ทางเวียดนามเองก็มีกวางสายพันธุ์เหมือนของเราแต่ที่เขามีคือ กวางดาวเวียดนาม นอกนั้นจะคล้าย ๆ กับของเรา 
5. ปัจจัยด้านบุคลากร คนดูแลฟาร์มต้องสามารถอยู่ที่ฟาร์มได้ 24 ชั่วโมง เพื่อกันกวางหายเมื่อกวางหลุดออกไปแล้วมักไม่สามารถตามคืนได้และที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้สุนัขเข้ามารบกวนกวางเพราะมันชอบไล่กัดกวางโดยเฉพาะลูกกวาง 


ในการจัดการฟาร์มนั้นก็มี 2 สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่ 
1. โรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง มีอุปกรณ์ที่สำคัญคือ รั้วกวาง เป็นรั้วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษมีลักษณะดังนี้ 
 1.1 ไม่เป็นสนิม มีอายุใช้งาน 20 ปี 
 1.2 มีความยืดหยุ่นสูง (กระเด้งได้) 
 1.3 สูงประมาณ 2 เมตร รั้วเราใช้ล้อมกวางทำเป็นแปลงให้มันอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีโรงเรือนแต่ควรมีร่มให้มันบ้าง วัสดุที่ใช้ทำรั้วทางสหกรณ์กวางได้ประสานงานกับทาง คุณสุรจิตเป็นผู้นำเข้าและบริการให้แก่สมาชิกสหกรณ์ลักษณะของรั่ว 1 ม้วนยาวประมาณ 100 เมตร สูง 5 เมตร ราคาประมาณ 17,500 บาท/ม้วน สรุปแล้ว โรงเรือนไม่จำเป็นสำหรับกวาง ในส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างที่กินน้ำก็ใช้ที่รองส้วมต่อท่อเข้าไปเปิดน้ำใส่ไว้ให้มันกิน และถ้าหากจะเลี้ยงกวางเพื่อเป็นปศุสัตว์จริง ๆ นั้นจะต้องมีส่วนประกอบที่มีความจำเป็นอีกอย่างหนึ่งได้แก่ อาคารจัดการกวาง หรือโรงเรือนจัดการกวาง มีลักษณะเป็นโรงเรือนสูงประมาณ 2 - 2.5 เมตร ฝาผนังทึบ แบ่งเป็นห้อง ห้องเล็ก ๆ แล้วแต่จำนวนกวาง มีห้องที่จะต้อนกวางเข้าไปในซองหนีบกวาง ซองหนีบกวางจะสร้างให้พื้นมันเปิดได้เวลากวางถูกหนีบมันจะไม่มีที่ยันและจะทำอะไรไม่ได้ แค่นี้เราก็สามารถตัดเขา ติดเบอร์หู ฝังชิป ฯลฯ ได้อย่างปลอดภัยกว่าที่จะไม่มีซองหนีบ 

2. การจัดการด้านสุขาภิบาล กวางเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายมาก เพราะมันดูแลตัวเองได้ อย่างเรื่องอาหารกวางกิน งานจะหนักบ้างก็ตอนเช้า กับบ่ายที่ต้องไปตัดหญ้าให้มันกินและคอยดูแลให้น้ำเท่านั้นเอง ส่วนงานหนักจริง ๆ จะมีแค่ปีละ 1 - 2 ครั้ง คือ การตัดเขาอ่อน แยกฝูง และติดเบอร์หู ในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนั้นแทบไม่มีอะไรเลย มูลกวางก็ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติเพราะลักษณะของมูลกวางจะเป็นเม็ดคล้ายมูลแพะหรือกระต่าย คือแห้งและไม่มีกลิ่นเหม็น 


การเลี้ยงดูกวางสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบดังนี้ 
  • การเลี้ยงดูกวางแบบปล่อยทุ่งกว้าง ในเกาะนิวคาลิโดเนีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์นั้นเนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางการเลี้ยงกวางเป็นฟาร์มจึงค่อนข้างจะเป็นแบบปล่อยทุ่งกว้าง กล่าวคือมีการกั้นพื้นที่ด้วยรั้งสูงประมาณ 1.80 เมตร ใช้ลวดชนิดยึดได้สูง (high tensile wire) ถักเป็นตาสี่เหลี่ยมประมาณ 12 ซม. มีเสาไม้สูง 1.8 เมตร ขนาดประมาณ 4 นิ้ว หรือที่เรียกทั่วไปว่าเสาหน้า 4 ฝังให้ห่างกันประมาณช่วงละ 8 เมตร โดยตลอดส่วนรั้งภายในนั้นจะมีความสูงประมาณ 2.20 เมตร ผังของฟาร์มจะประกอบด้วยรั้วล้อมรอบพื้นที่ฟาร์มทั้งหมด เรียกว่า รั้วเขตนอก (boarder fence) เพื่อกั้นเขตและป้องกันศัตรูโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัข และมักจะใช้รั้วลวดหนามเป็นสันที่ขึงติดกับพื้นดินเพื่อป้องกันสุนัขศัตรูอื่น ๆ เข้ามาทำร้ายกวาง ส่วนภายในฟาร์มจะมีการกั้นรั้วแบ่งพื้นที่ออกเป็นแปลงย่อยหลาย ๆ แปลง เพื่อให้กวางอยู่อาศัยและกินหญ้าตลอดจนใบไม้เป็นอาหารได้ในแต่ละแปลง และเพื่อให้สามารถต้อนกวางไปอยู่ในแปลงอื่นที่มีอาหารมากกว่า โดยให้เวลาหญ้าและต้นไม้ในแปลงเก่าได้มีโอกาสแตกใบได้อีก จึงต้องมีการกั้นบริเวณกลางฟาร์มเป็นช่องคล้ายถนนยาวตลอดฟาร์มตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังสุดของฟาร์มเพื่อใช้เป็นช่องทางต้อนกวางเปลี่ยนสลับแปลงได้โดยง่าย สำหรับกวางที่ตั้งท้องและพร้อมจะคลอดนั้นจะต้องจัดแปลงขนาดพอเหมาะไว้แปลงหนึ่งต่างหากโดยนอกจากจะมีหญ้าเป็นอาหารพอเพียงแล้วควรจะมีพุ่มไม้เตี้ย ๆ ไว้จำนวนหนึ่งด้วยเสมอ ทั้งนี้เพราะแม่กวางจะเข้าไปซุกอยู่ใต้พุ่มไม้หนาทึบและคลอดลูกเอง ลูกกวางที่คลอดออกมาใหม่จะนอนนิ่งใต้พุ่มไม้นี้โดยคอยดูดนมแม่ทุกวันจนครบ 1 - 2 สัปดาห์จึงสามารถลุกวิ่งเดินตามแม่ไปได้ ลูกกวางจะหย่านมที่อายุประมาณ 6 - 7 เดือน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหาร เมื่อหย่านมแล้วเจ้าของฟาร์มก็ต้องแยกไปรวมผูงตามขนาดอายุเดียวกันไว้ในแปลงที่แยกออกไปต่างหากมิเช่นนั้นกวางที่ตัวโตกว่าจะทำร้ายถึงตายได้ อัตราส่วนของกวางตัวผู้ที่นิยมใช้มักจะใช้ 1 ต่อตัวเมีย 20 - 30 ตัว แต่ในบางกรณีหากตัวผู้มีความสามารถสูงก็อาจคุมตัวเมียได้ถึง 40 - 50 ตัว ซึ่งก็มีปัจจัยสำคัญน่าจะอยู่ที่อาหารและการบำรุงตัวผู้เป็นสำคัญ 
  •  การเลี้ยงดูกวางแบบขังคอกในพื้นที่จำกัด สำหรับรูปแบบของการเลี้ยงกวางในระบบฟาร์ม นอกเหนือจากการเลี้ยงในแปลงปล่อยพื้นที่กว้าง ๆ อย่างในประเทศนิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, นิวคาลิโดเนีย แล้วก็มีรูปแบบการเลี้ยงอีกอย่างคือการเลี้ยงแบบขังคอก ซึ่งก็คือในการเลี้ยงตามสวนสัตว์ต่าง ๆ แต่ทว่าใช้พื้นที่น้อยกว่า กล่าวคือจะใช้พื้นที่เพียง 3 * 4 เมตร หรือ 5 * 8 เมตร ก็สามารถเลี้ยงกวางได้ 6 - 12 ตัว อย่างที่ไต้หวันได้ทำการเลี้ยงอยู่ทุกวันนี้ จะกั้นคอกเป็นห้อง ๆ ซึ่งก็มีทั้งที่เป็นคอกแบบทึบและแบบโปร่ง คือคอกแบบทึบนั้นจะปิดทึบผนังด้านข้างทั้งสองด้าน ส่วนด้านหน้าและด้านหลังจะมีช่องระบายอากาศให้ พร้อมกับเป็นช่องสำหรับใส่หญ้าและมีช่องประตูเข้าออกและพื้นคอกเทด้วยซีเมนต์ โดยมีอ่างน้ำใส่ไว้ให้กวางกินอยู่ในคอกด้วย สำหรับคอกแบบโปร่งก็มีการกั้นเป็นห้อง ๆ เหมือนกับคอกแบบทึบ จะต่างกันเพียงว่าการกั้นแบ่งเป็นคอกนั้นใช้ลวดตาข่ายเป็นที่กั้น ก็เลยทำให้คอกโปร่งหรือเรียกว่าคอกแบบโปร่งและเช่นเดียวกันภายในคอกมีรางหญ้าและอ่างน้ำ หรือบางแห่งก็จัดวางไว้ที่ด้านหน้าของคอก นอกจากนั้นก็มีการเทพื้นคอกด้วยปูนซีเมนต์ ผู้ที่ได้ไปเห็นมาเล่าว่า ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดคือ เพียงฉีดน้ำเข้าไปล้างอุจจาระและเศษอาหารที่ตกหล่นอยู่ในคอก ก็จะถูกชะล้างออกหมด

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

Translate

Popular Posts