Home » » >>>แก๊สโซฮอล์ E85

>>>แก๊สโซฮอล์ E85

>>>แก๊สโซฮอล์ E85



มาดูกันก่อนว่าน้ำมัน E 85 คืออะไร

        ตามข้อกำหนดคุณภาพของกรมธุรกิจพลังงาน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ของประเทศไทย คือ น้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอลชนิดความบริสุทธิ์ 99.5% อยู่ระหว่างร้อยละ 75 - 85 กับน้ำมันเบนซินพื้นฐาน สามารถใช้เติมในรถยนต์ที่ผลิตให้สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอลในสัดส่วนที่สูงได้ หรือเรียกว่า รถยนต์ E85 หรือ Flex Fuel Vehicle

        น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmentally Friendly Fuel) ลดมลพิษที่ปล่อยจากไอเสีย ไดแก่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวหนึ่งที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน โดยจะลดลงมากเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซิน นอกจากนั้น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ยังช่วยลดการพึ่งพานำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ เนื่องจากการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ของผู้บริโภค 1 ลิตร จะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยลดการใช้น้ำมันเบนซินลงได้ถึง 0.85 ลิตร

        ในปัจจุบันน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 มีใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสวีเดน และในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา แถบมินนิโซต้า มีการกำหนดอัตราการผสมของเอทานอลแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละฤดูกาลของประเทศนั้นๆ เหตุผลหลักที่สำคัญและเหมือนกันทุกประเทศของการส่งเสริมการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซิน คือ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียม ลดภาวะโลกร้อนจากการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ และเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
(ขอบคุณข้อมูลจาก ปตท.ครับ)



\

คุณสมบัติของน้ำมัน E 85 
        จากบทความดังกล่าว น้ำมัน E85 ก็คือน้ำมันที่ใช้ เอทานอล แอลกอฮอล์ ผสมกับ น้ำมันเบนซิน ในอัตราส่วน 85:15 หรือ เอทานอล แอลกอฮอล์ 85% กับ น้ำมันเบนซิน 15%

e85

ใช้ได้กับรถยนต์หลากรุ่นหลากยี่ห้อ


        สำหรับรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้นั้น คณะกรรมการประสานงานยานยนต์เอทานอล (National Ethanol Vehicle Coalition : NEVC) ได้ประกาศรายชื่อรถยนต์รุ่นที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ที่จะออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 นี้ จากไครสเลอร์, ฟอร์ด, เจนเนอรัล มอเตอร์, นิสสัน และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งมีทั้งหมด 31 รุ่น อาทิ เบนซ์ C300 แอลเอส, นิสสัน อาร์มาด้า, ดอดจ์ แรม, จิ๊บ คอมมานเดอร์, แกรนด์ จิ๊บ เชโรกี, ฟอร์ด เอฟ 150 เป็นต้น (ตรวจสอบรุ่นรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่ www.e85fuel.com) ในขณะที่ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยคาดว่าจะสามารถผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ภายใน 3-4 ปีต่อจากนี้ และจากการประมาณการณ์โดยรวมในปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา คาดว่ามีรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ซึ่งรองรับเชื้อเพลิงได้หลายชนิด จำหน่ายออกไปประมาณ 7,000 คัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ 

        เชื่อว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 น่าจะกลายเป็นสูตรน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่างๆ ใช้กลไกภาษีน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันจูงใจผู้บริโภคให้เลือกใช้ รวมทั้งกำหนดโครงสร้างภาษีรถยนต์ที่ส่งเสริมให้เกิดการผลิตและจำหน่ายรถ FFV เพื่อสนับสนุนการใช้แก๊สโซฮอล์ E85 ในอนาคต สำหรับประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะผลิตและจำหน่าย น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แต่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งบริษัทน้ำมันและบริษัทรถยนต์จะได้ร่วมมือกันในการพัฒนาและส่งเสริมโดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการใช้เอทานอลทดแทนน้ำมันให้มากที่สุด

มีผลอย่างไรกับเครื่องยนต์ไหม

        น้ำมันตระกูล E ที่ผสม เอทานอล แอลกอฮอล์ ทั้งหลาย ไม่มีผลอะไรกับเครื่องยนต์ ถ้าตั้งค่าองศาการจ่ายไฟตรงกับชนิดของน้ำมัน แต่มันเป็นอันตรายต่อทางเดินน้ำมัน เนื่องจากมีส่วนผสมของเอทานอล แอลกอฮอล์อยู่จึงทำให้มีฤทธิ์กัดกร่อน ท่อยาง ข้อต่ออ่อนต่างๆ ถังน้ำมันที่เป็นเหล็ก สิ่งเหล่านี้ต้องระวัง ที่สำคัญถ้าจะใช้น้ำมันพวกนี้ต้องเปลี่ยนให้รองรับครับ

แต่ก็ยังมีข้อควรระวังตามลักษณะการใช้รถยนต์ 2 ประการคือ

        1. สำหรับรถยนต์ที่วิ่งทุกวัน หมายถึงรถที่ใช้วิ่งไปทำงาน ไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียน รถยนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รถยนต์ที่ใช้งานในลักษณะแบบนี้ต้องใช้น้ำมันให้หมดถังก่อนแล้วจึงเติมใหม่ครับ

        2. สำหรับรถยนต์ที่ไม่ค่อยใช้งาน หมายถึง รถที่จอดบ้างวิ่งบ้าง อาทิตย์หนึ่งวิ่งแค่ไม่กี่กิโลเมตร หรือ นานๆวิ่งออกต่างจังหวัด รถยนต์ที่ใช้งานลักษณะแบบนี้ มีความเสี่ยงที่น้ำมันในถังจะกลั่นตัวกลายเป็นน้ำ เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหนคิดจะวิ่งใช้งานเกินกว่า 30 กิโลเมตรให้เติมน้ำมันใหม่เข้าถัง เพื่อที่น้ำมันใหม่จะได้ไปลดส่วนผสมของน้ำให้น้อยลงและเพิ่มค่าออคเทนน้ำมันเก่าในถังครับ อีกทั้งเป็นการยืดอายุน้ำมันในถังไม่ให้บูดเร็วอีกด้วย

ปัญหาที่พบได้จากน้ำมันที่ผสมเอทานอล แอกอฮอล์

        1. น้ำมันตระกูล E จะบูดเร็วกว่าน้ำมันที่ไม่ผสมเอทานอล แอลกอฮอล์ครับ 

        2. เอทานอล แอลกอฮอล์ ถ้าปล่อยไว้มันจะกลั่นตัวกลายเป็นน้ำครับ

        3. เนื่องจากมันกลั่นตัวกลายเป็นน้ำ รถที่ใช้ถังน้ำมันที่เป็นเหล็กจึงไม่ควรใช้ครับ

        4. ท่อน้ำมันต้องเปลี่ยนให้รองรับน้ำมันครับ เพราะเอทานอล แอลกอฮอล์จะกัดท่อเร็วมาก(ผมเคยทดลองแช่ท่อไว้ในน้ำมัน) เอทานอล แอลกอฮอล์จะกัดท่อเป็นผงๆขุยๆ แล้วก็วิ่งไปตามทางของมัน จะเกิดอะไรขึ้นคิดดูครับ

        5. พยายามอย่าใช้น้ำมันจนหมดถังเพราะปั๊มมันอาจดูดน้ำที่กลั่นตัวมาเผาไหม้ได้ครับ เติมให้น้ำมันใหม่เข้าไว้
___________________________________________________________________________________________________________________

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

Translate

Popular Posts